บทความ > ทำไมต้องตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

ทำไมต้องตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

ตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ

 

การตั้งศูนย์ล้อ คือการทำให้ส่วนประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบบังคับเลี้ยว ระบบช่วงล่างล้อ และยาง ทำงานสัมพันธ์กันอย่างถูกต้อง ซึ่งจะทำให้รถวิ่งได้ตรง ไม่ดึงไปทางซ้ายหรือขวา ระบบช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยวของรถนั้น มีชิ้นส่วนต่างๆ มากมาย ที่มีการเคลื่อนไหวขณะรถวิ่ง และย่อมจะมีการสึกหรอเกิดขึ้น ซึ่งมีผลทำให้ศูนย์ล้อผิดเพี้ยนไปจากสเป็คที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการปรับตั้งศูนย์ล้อเพื่อให้ได้ค่าตามที่กำหนดไว้ในสเป็คของรถ นอกจากนั้น ศูนย์ล้อยังขึ้นอยู่กับความสูงของตัวรถกับพื้นถนน และการกระจายน้ำหนักลงบนล้อรถด้วย กล่าวคือ เมื่อรถถูกใช้งานนานขึ้น คอยส์สปริง บุช ลูกยางต่างๆก็เริ่มหมดอายุ ความสูง และการกระจายน้ำหนักของรถก็ผิดไปจากมาตราฐานเดิม อันจะส่งผลให้ศูนย์ล้อผิดพลาดไปจากสเป็ค เมื่อใดก็ตามที่ศูนย์ล้อไม่ถูกต้องตามสเป็ค ล้อรถกับตัวถัง หรือล้อข้างซ้ายกับล้อข้างขวาก็จะไม่เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน อันจะเป็นผลให้รถวิ่งไม่ตรง หรือเกิดอาการแฉลบ หรือพวงมาลัยดึงไปข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้ยางสึกผิดปกติ

ตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ

โทอิน (Toe-in) คือระยะหน้ายางเอียงเข้าหากัน ตามทิศทางหน้ารถ (เมื่อมองจากด้านบน ลงสู่พื้นถนน) โทอิน จะมีค่าเป็นบวก (Positive) เมื่อระยะห่างของยางด้านหน้า น้อยกว่าระยะห่างของยางด้านหลัง และโทอิน จะมีค่าเป็นลบ ( Negative) เมื่อระยะห่างของยางด้านหน้ามากกว่า ระยะห่างของยางด้านหลัง โทอินจะทำไม่ให้ล้อสั่น จากความต้านทางกลิ้ง ลดระยะหลวมของลูกหมากคันส่ง และทำให้ล้อรถ เคลื่อนที่ขนานไปอย่างคงที่

มุมแคสเตอร์ (Caster angle) คือมุมการวางตำแหน่งล้อ เมื่อมองจากด้านข้างตัวรถ เข้าไปหาตัวรถ มุมแคสเตอร์ จะเป็นมุมของแกนหมุนเลี้ยว ที่เอียงจากแนวดิ่งไปตามแนวยาวของรถ เมื่อแกนหมุนเลี้ยวส่วนบน เอียงไปทางด้านหลังรถ มุมแคสเตอร์ จะมีค่าเป็นบวก (Positive) ในทางตรงข้าม ถ้าแกนหมุนเลี้ยวส่วนบน เอียงไปทางด้านหน้ารถ มุมแคสเตอร์ จะมีค่าเป็นลบ (Negative) มุมแคสเตอร์ ทำหน้าที่ทรงทิศทางด้วยตัวเอง เพื่อให้พวงมาลัยหมุนคืนกลับตำแหน่งทางตรงได้เอง หลังจากมีการเลี้ยว และทำให้การการทรงตัวได้ดี

มุมแคมเบอร์ (Camber angle) คือมุมการวางตำแหน่งล้อ เมื่อมองจากด้านหน้ารถ หรือหลังรถเข้าไปหาตัวรถ ถ้าระยะห่างระหว่างด้านล่างของล้อ (ติดพื้นถนน) มีระยะน้อยกว่า ระยะห่างด้านบนของล้อทั้ง 2 ข้าง เรียกว่าแคมเบอร์มีค่าเป็นบวก (Positive) เมื่อมองดูแล้วเหมือนกับล้อเอียงสอบเข้าหากัน คล้ายรูปกรวย ในทางตรงข้าม ถ้าระยะห่างระหว่างด้านล่างของล้อ (ติดพื้นถนน) มีระยะมากกว่า ระยะห่างด้านบนของล้อทั้ง 2 ข้าง เรียกว่า แคมเบอร์มีค่าเป็นลบ (Negative) เมื่อมองดูแล้วเหมือนกับล้อ แบะออกไป มุมแคมเบอร์ ทำหน้าที่ต้านการเอียงข้างของรถขณะขับขี่ในทางโค้ง ลดรัศมีหมุนเลี้ยวลง เพื่อให้หมุนพวงมาลัยได้เบา ทำให้ไม่เกิดการคลอนตัวลูกปืนล้อที่ระยะฟรี และลดอาการล้อลื่น

การถ่วงล้อ การถ่วงล้อที่ไม่สมดุล จะส่งผลให้พวงมาลัยสะท้านขณะขับรถที่อันมีผลเสียต่ออายุการใช้งานของยาง และคุณสมบัติการเกาะถนนระบบช่วงล่างของรถและโช้กอัพ ตลอดจนความนุ่มนวลในการขับขี่การถ่วงล้อจะช่วยให้เกิดการกระจาย น้ำหนักอย่างถูกต้องของยางและกระทะล้อ และทำให้ยางเกิดการสึกอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อใดควรทำการถ่วงล้อรถ

1. เมื่อเปลี่ยนยางใหม่ทุกครั้ง

2. เมื่อมีการสลับยาง หรือสลับกระทะล้อ

3. เมื่อนำยางที่ใช้แล้วมาใส่กระทะล้อที่ใช้อยู่

4. เมื่อยางแตก และได้รับการปะยางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

5. เมื่อมีการถอดยางออกจากระทะล้อ หรือใส่ยางกลับเข้ากระทะล้อ

6. เมื่อเกิดการสั่นสะท้านขณะที่รถวิ่ง

7. เมื่อยางเกิดการสึกไม่สม่ำเสมอ

การตั้งศูนย์-ถ่วงล้อกับอู่คลีนิคแท็กซี่-คลีนิครถยนต์

เพื่อนๆคงทราบความสำคัญเกี่ยวกับการตั้งศูนย์-ถ่วงล้อกันแล้วนะครับ ที่อู่คลีนิคแท็กซี่-คลีนิครถยนต์ มีบริการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เพื่อนๆที่บ้านอยู่แถวลาดพร้าวก็สามารถแวะมาใช้บริการตั้งศูนย์ถ่วงล้อได้เลยนะครับ ที่นี่มีเครื่องมือที่พร้อมให้บริการ

 

Credit :www.soonroumyang.com, www.smbwheel.com

Tags ยางรถยนต์ ,ตั้งศูนย์ ,ถ่วงล้อ
วันที่เขียน 07-10-2013 23:22:54

Share